แนวคิดสำหรับบริษัทที่ต่อมากลายเป็น ASUS นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการสนทนาในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่งในกรุงไทเป ซึ่งวิศวกรที่มีความทะเยอทะยานเพียงไม่กี่คน กำลังแชร์ความฝันในการสร้างบริษัทสักบริษัทหนึ่ง ที่ “เล็กๆ และสวยงาม”

ภายในระยะเวลาเพียง 8 เดือน วิศวกรเหล่านี้ได้สร้าง Cache386/33 และ 486/25 ซึ่งเป็นเมนบอร์ดสำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล 2 รุ่น ที่ใช้งานในผลิตภัณฑ์ชั้นนำในอุตสาหกรรมที่ผลิตขึ้นโดย IBM และ ALR – หลังจากความสำเร็จของเมนบอร์ดเหล่านี้ ประเทศไต้หวันก็กลายเป็นที่รู้จักกันดีในนามของศูนย์กลางสินค้าไอทีคุณภาพสูง

เมื่อธุรกิจได้เติบโตพัฒนาอย่างรวดเร็ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Jonney Shih ได้อบรมและให้คำปรึกษาแก่วิศวกรน้องใหม่ของบริษัทด้วยตนเอง โดยมุ่งเน้นที่ทฤษฎีอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ เขาเองยังเป็นหัวหอกในการออกแบบเมนบอร์ดรุ่นใหม่ โดยเน้นเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นหลัก

การได้มาซึ่งความสามารถกลายเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกของบริษัท: ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากทั่วไต้หวันได้รับการเรียนเชิญมาเพื่อออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์มัลติมีเดีย และวงจรรวมแบบเฉพาะแอปพลิเคชั่น (ASIC) ในช่วงเวลานี้ ร้อยละ 2 ของรายได้และร้อยละ 10 ของจำนวนพนักงานทั้งหมดได้ถูกจัดอยู่ในระบบของวิจัยและพัฒนา (R&D) – เมื่อเทียบสัดส่วนกัน การลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนานี้เป็นสัดส่วนที่เทียบเท่าบริษัทไอทีชั้นนำของโลกเลยทีเดียว

ในช่วงต้นสหัสวรรษใหม่ ความคิดใหม่ๆ อย่างแนวคิดแบบลีน (Lean Thinking) ได้รับการนำมาใช้ในการทำงาน โดยผสมผสานองค์กระกอบที่สำคัญของหลักการ Six Sigma หลักการทำงานใหม่ของ ASUS นี้ (ASUS Way) ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาและเข้าถึงศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งจะช่วยให้องค์กรโดยรวมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ในชณะที่บริษัทขยายสายการผลิตไปยังผลิตภัณฑ์อีกหลายประเภท ASUS ยังได้พัฒนาแบรนด์ย่อยคือ Republic of Gamers (ROG) ขึ้น ซึ่งเป็นแผนกหนึ่งที่อุทิศพลังงานเพื่อสร้างอุปกรณ์เล่นเกมที่ดีที่สุดในโลก มีการจัดตั้งคณะกรรมการคณะพิเศษเพื่อดูแลแบรนด์ ROG โดยเฉพาะ และเพื่อให้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชั้นนำที่เป็นที่รู้จักทั้งในด้านประสิทธิภาพและในด้านคุณภาพ

ในช่วงเวลานี้ ASUS ยังได้เปิดตัว Eee PC โดยเป็นการปฏิวัติรูปแบบใหม่ที่มาจากจินตนาการของผู้คนทั่วโลก เปิดประตูเข้าสู่ยุคใหม่ของการใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพา – Eee PC กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายดีในระดับโลกด้วยเวลาเพียงไม่นาน และได้รับรางวัลจากนานาชาติมากมาย ความโด่งดังและความสำเร็จระดับโลกของ Eee PC ทำให้ ASUS ขึ้นมาอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรม และทำให้บริษัทเปลี่ยนแปลงตัวเองไปสู่ผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคระดับโลก

ด้วยสายการผลิตที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว CEO Jonney Shih จึงนำความคิดที่จะแยกบริษัทออกเป็น 3 ธุรกิจที่แตกต่าง การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในวันนั้น ช่วยให้แต่ละภาคส่วนมุ่งเน้นสร้างแบรนด์ของตนอย่างเด่นชัดระหว่างบริษัทสายผลิตภัณฑ์ ASUS และบริษัทด้านการจัดหาส่วนประกอบ

ขณะที่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญขององค์กรกำลังเกิดขึ้น ASUS ก็ยังคงครองส่วนแบ่งการตลาดด้วยเมนบอร์ดที่มีชื่อเสียงก้องโลก ภายในปี 2006 บริษัทมีการจัดส่งผลิตภัณฑ์เมนบอร์ดกว่า 55 ล้านชิ้นต่อปี และได้ครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกมากกว่าร้อยละ 33 ซึ่งเป็นการยกระดับ ASUS ให้เป็นบริษัทผลิตเมนบอร์ดอันดับ 1 ของโลกอย่างปราศจากข้อโต้แย้ง

ก้าวสู่ทศวรรษที่สองของศตวรรษที่ 21 ฝ่ายบริการของ ASUS กล่าวถึงโอกาสที่จะส่งพลังเชิงบวกให้กับชุมชนท้องถิ่นต่างๆ และสังคมโลกผ่านความพยายามที่จะก้าวไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในขณะที่มูลนิธิอัสซุสได้ขยายความพยายามที่จะช่วยทำให้ช่องว่างระหว่างกลุ่มดิจิตอลลดลง กลุ่ม GreenASUS เริ่มการออกแบบผลิตภัณฑ์และการจัดหาอุปกรณ์ที่สามารถเปลี่ยนแปลงธุรกิจได้ แนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนทั่วทั้งองค์กรใหม่เหล่านี้ได้รับการยอมรับและยกย่องอย่างรวดเร็วจากกลุ่มสิ่งแวดล้อมและสื่อต่างๆ ทั่วโลก

ในปี 2009 ASUS ได้ผลิตเมนบอร์ดตัวแรกที่ผ่านการรับรอง Energy Star 5.0 โดย CNN และนิตยสาร Digital Times ยกให้ ASUS เป็นบริษัทแห่งเทคโนโลยีสีเขียวชั้นนำ

ดำรงตำแหน่งแบรนด์ระดับสากลอันดับ 3 มาตลอดระยะเวลา 12 ปี ในปี 2011 ASUS ได้ตั้งปณิธานใหม่ที่อธิบายถึงความตั้งใจที่ไม่สิ้นสุดในการค้นหาสิ่งที่ดีที่สุด: In Search of Incredible

ในปี 2016 บริษัทได้เติบโตไปสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ได้รับรางวัลกว่า 4,385 รางวัล และในปีเดียวกัน ASUS ได้รับการขนานนามโดยนิตยสาร Fortune ว่าเป็นบริษัทที่ได้รับการชมเชยมากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยอยู่ในที่ 4 ในหมวดอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์

ในปัจจุบัน บริษัทที่ “เล็กแต่สวยงาม” ที่ริเริ่มในคาเฟ่เมื่อปี 1989 นั้นได้กลายมาเป็นบริษัทชั้นนำในด้านเทคโนโลยีที่มีพนักงานกว่า 15,000 คน

จากคำแนะนำของประธานกรรมการ คุณ Jonney Shih ทำให้ ASUS spirit of innovation นั้นแข็งแกร่งกว่าขึ้นกว่าเดิมโดยมองไปถึงยุคของสมาร์ทเทคโนโลยี

บริษัทได้มุ่งหน้าไปสู่อนาคตโดยแตกแขนงนวัตกรรมที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดยั้ง