ผนึกกำลังเทคโนโลยีเพื่อการศึกษารูปแบบใหม่
โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์
ASUS ExpertCenter D641MD
เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นช่วยอำนวยความสะดวกด้านการศึกษาได้มากขึ้น ไม่เพียงแต่เอื้อประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในยุคที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 แบบนี้เท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่อสร้างสื่อการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ๆ ที่ทันยุคสมัยด้วย โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ จังหวัดนครราชสีมา คือหนึ่งในโรงเรียนที่ก้าวไปเท่าทันในเรื่องนี้ โดยมีเทคโนโลยีเป็นผู้ช่วยที่ลงตัว
โรงเรียนแห่งเทคโนโลยี
อาจารย์เด่นเดือน ประวิทย์วงศ์ รองหัวหน้ากลุ่มสาระ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนงานคอมพิวเตอร์ โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงด้านการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอนในโรงเรียน เล่าให้ฟังไว้อย่างน่าสนใจว่า นอกจากวิชาด้านคอมพิวเตอร์จะถูกวางไว้ให้เป็นพื้นฐานในการเรียนของนักเรียนในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 แล้ว การเป็นศูนย์เทคโนโลยีของสำนักงานเขตการศึกษา ยังทำให้โรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์ มีบทบาทสำคัญต่อทั้งการฝึกอบรมครูและบุคลากรทั้งภายใน และบุคลากรภายนอกโรงเรียนในเขตการศึกษาเดียวกัน เพื่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เป็นสื่อการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย |
“สำหรับบุคลากรแล้ว โรงเรียนของเราจะมีการฝึกอบรมบุคลากรใหม่ ที่เข้ามาทำงานใหม่ในแต่ละปี นอกจากนี้ในแต่ละช่วงก็มีการฝึกอบรมพิเศษ ตามความสนใจในแต่ละด้านเพื่อนำไปเสริมทักษะการสอน เช่น ฝึกอบรมวิธีทำการเรียนการสอนออนไลน์ เป็นต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ อย่างในช่วงที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ ก็เพิ่งมีการอบเรื่องระบบ SOLS ซึ่งเป็นระบบการเรียนการสอนทั้งหมดของ Google ที่เราใช้ในโรงเรียน เพื่อให้ครูสามารถใช้นำไปใช้งานได้จริง เนื่องจากปัจจุบันโรงเรียนของเราได้รับความร่วมมือจาก Google Thailand เข้ามาช่วยซัพพอร์ตด้านเครือข่าย
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด – 19 รูปแบบการเรียนการสอนของเราก็จะเป็นการเรียนออนไลน์ผ่านแอพลิเคชั่น Classroom หรือ Google Meets เพื่อร่วมเรียนกับครูผู้สอน โดยนักเรียนของโรงเรียนเราจะมีแอคเค้าท์เป็นของตัวเอง ทางโรงเรียนเป็นผู้จัดการระบบทั้งหมดผ่านเครือข่ายของ Google ซึ่งตอบโจทย์มากกับสถานการณ์ปัจจุบัน”
คอมพิวเตอร์ที่ลงตัวคือตัวเอกสำคัญเสมอ
ในสถานการณ์ปกติ นักเรียนกว่า 2,800 คนของโรงเรียนทุกคนจะได้เรียนในวิชาพื้นฐานคอมพิวเตอร์ในทุกภาคการศึกษา โดยมีวิชาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 1 รายวิชา ในขณะที่นักเรียนในโครงการพิเศษ ซึ่งเป็นโครงการทวิศึกษา โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จะมีรายวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เข้มข้นขึ้น อย่างการเรียนการเขียนโปรแกรม เป็นต้น ด้วยเหตุนี้สเปคคอมพิวเตอร์ที่ตอบโจทย์สำหรับนักเรียนในแต่ละกลุ่มจึงมีความสำคัญอย่างมากด้วย นอกเหนือไปจากจำนวนเครื่องที่ต้องเพียงพอต่อจำนวนนักเรียนทั้งหมด
“เนื่องจากโรงเรียนมีจำนวนนักเรียนค่อนข้างมาก รวมถึงการเป็นศูนย์เทคโนโลยีของสำนักงานเขตการศึกษา เราจึงต้องมีจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เพียงพอต่อการใช้งาน ปัจจุบันเรามีห้องคอมพิวเตอร์ที่อาคาร 4 จำนวน 5 ห้อง และห้องเรียนคอมพิวเตอร์เฉพาะอีก 7 ห้องเรียน โดยแต่ละห้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ประมาณ 50-55 เครื่อง แต่ปัญหาเกี่ยวกับใช้งานคอมพิวเตอร์ก็มักเป็นเรื่องพื้นฐาน อย่างเครื่องรุ่นเก่าที่ใช้งานมานานก็เริ่มไม่รองรับการใช้งานโปรแกรมใหม่ระดับสูงขึ้น รวมถึงประมวลผลได้ช้า”
วันนี้ศูนย์คอมพิวเตอร์ของโรงเรียนสุรธรรมพิทักษ์จึงได้เลือก ASUS ExpertCenter D641MD เข้ามาเสริมทัพด้านการเรียนการสอนของที่นี่ ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ซีพียูระดับ Core i7 ที่มีการ์ดจอออนบอร์ดที่สามารถเชื่อมต่อจอภาพได้มากที่สุดพร้อมกันถึง 3 จอเท่านั้น แต่ยังมากับพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครัน ในขณะเดียวกันก็เป็นเครื่องที่กะทัดรัด พร้อมมีดีไซน์เรียบสวย ส่วนความโดดเด่นเรื่องทนทานต่อการใช้งานสูง ก็ทำให้ ASUS ExpertPC D641MD เป็นรุ่นที่เหมาะสมต่อการใช้งานในสถานศึกษาอย่างมากด้วย
ในฐานะที่อยู่กับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งจากรูปแบบการทำงาน และการใช้งานส่วนบุคคล คุณเด่นเดือนยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ถึงความประทับใจในแบรนด์ ASUS ว่าเป็นเรื่องความทนทานในการใช้งาน สิ่งนี้ทำให้ ASUS กลายเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นและถูกพูดถึงอย่างมาก นอกจากนี้การมีสเปคที่ตอบโจทย์ และดีไซน์เรียบง่ายแต่โดนใจ ก็มีผลต่อการตัดสินใจ และหากเป็นกลุ่มแลปท็อปแล้ว ความอึดทนของแบตเตอรี่ ก็เป็นปัจจัยอันดับต้นๆ ที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจซื้อคอมพิวเตอร์ด้วย ซึ่งทั้งหมดนั้น วันนี้ ASUS เองก็ได้ทำหน้าที่เหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์เช่นกัน
รายละเอียดเพิ่มเติม : ASUS ExpertCenter D6 Mini Tower D641MD