[Windows 11/10] การเข้ารหัสอุปกรณ์ (BitLocker)

[Windows 11/10] การเข้ารหัสอุปกรณ์ (BitLocker)

โปรดไปที่คำแนะนำที่เกี่ยวข้องตามระบบปฏิบัติการ Windows ปัจจุบันบนคอมพิวเตอร์ของคุณ:

• Windows 11
• Windows 10

Windows 11 operating system

เมนู:

• เพื่อดูว่าคุณสามารถใช้การเข้ารหัสอุปกรณ์ได้หรือไม่
• เปิดใช้งานการเข้ารหัสอุปกรณ์
• ปิดการเข้ารหัสอุปกรณ์
• การเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน
• ปิดการใช้งาน BitLocker encryption

เพื่อดูว่าคุณสามารถใช้การเข้ารหัสอุปกรณ์ได้หรือไม่

1. พิมพ์และค้นหา [System Information] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Ran as administrator]②.
   
2. ที่ด้านล่างของหน้าต่าง System Information ให้หา [Device Encryption Support]③ ถ้าค่าบอกว่า [Meets prerequisites]④ การเข้ารหัสอุปกรณ์พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ของคุณ หากไม่มี คุณสามารถใช้ การเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน แทนได้
   

กลับสู่เมนู

เปิดใช้งานการเข้ารหัสอุปกรณ์

1. พิมพ์และค้นหา [Device encryption settings] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Open]②.
   
2. ในบางรุ่นอาจเปิดฟีเจอร์การเข้ารหัสอุปกรณ์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น หากคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft การเข้ารหัสอุปกรณ์จะเสร็จสิ้นบนอุปกรณ์ของคุณ
   หากคุณยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Microsoft โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า การเข้ารหัสอุปกรณ์เปิดอยู่③ จากนั้นให้เลือก [Sign in]④.
   
3. เข้าสู่การตั้งค่าข้อมูลของคุณ กรุณาคลิก [Sign in with a Microsoft account instead]⑤ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ แนะนำการใช้งาน Microsoft account
   
4. หลังจากที่คุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Microsoft การเข้ารหัสอุปกรณ์จะเสร็จสิ้น
   
5. คุณจะพบว่ามีไอคอน กุญแจ ที่ไดร์ฟของคุณ ซึ่งหมายความว่าไดรฟ์นี้ได้รับการเข้ารหัสจากการเข้ารหัสอุปกรณ์ (ภาพประกอบต่อไปนี้เป็น สถานะปลดล็อค)
   

กลับสู่เมนู

ปิดการเข้ารหัสอุปกรณ์

1. พิมพ์และค้นหา [Device encryption settings] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Open]②.
   
2. ในช่อง Device encryption ให้เลือก [Off]③.
   
3. ยืนยันว่าคุณต้องการปิดการเข้ารหัสอุปกรณ์ ให้เลือก [Turn off] เพื่อปิดการใช้งานฟังก์ชั่นการเข้ารหัสอุปกรณ์④.
   

กลับสู่เมนู

การเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน

BitLocker เป็นฟังก์ชันในตัวของการเข้ารหัสอุปกรณ์ใน Windows เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ และข้อมูลในอุปกรณ์ของคุณสามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

หมายเหตุ: BitLocker ไม่พร้อมใช้งานบน Windows 11 Home edition.

1. พิมพ์และค้นหา [Manage BitLocker] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Open]②.
   
2. คลิก [Turn on BitLocker]③ บนไดรฟ์ที่คุณต้องการตั้งค่าการเข้ารหัสอุปกรณ์ของ BitLocker (ต่อไปนี้ใช้ไดรฟ์ D เป็นตัวอย่าง)
   
3. เลือก [Use a password to unlock the drive] แล้วพิมพ์รหัสผ่านที่ต้องการ ④ จากนั้นให้เลือก [Next]⑤หากคุณมีสมาร์ทการ์ด คุณยังสามารถเลือกตัวเลือกสมาร์ทการ์ดเพื่อปลดล็อกไดรฟ์ได้
   
4. เลือกวิธีสำรองคีย์การกู้คืนของคุณ⑥ จากนั้นให้เลือก [Next]⑦.
   คีย์การกู้คืนเป็นรหัสผ่านตัวเลข 48 หลักที่ไม่ซ้ำกัน หากคุณลืมรหัสผ่าน คุณสามารถใช้คีย์การกู้คืนเพื่อเข้าถึงไดรฟ์ของคุณได้ หรือ Windows จะต้องใช้คีย์การกู้คืน BitLocker เมื่อตรวจพบสภาวะที่ไม่ปลอดภัยซึ่งอาจเป็นการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
   
5. เลือกพื้นที่ดิสก์ของไดรฟ์ที่คุณต้องการเข้ารหัส⑧ จากนั้นให้เลือก [Next]⑨
   
6. เลือกโหมดการเข้ารหัสใดที่คุณต้องการใช้⑩ จากนั้นให้เลือก [Next]⑪
   
7. ยืนยันว่าการตั้งค่าการเข้ารหัสถูกต้อง จากนั้นให้เลือก [Start encrypting]⑫ เพื่อเริ่มเข้ารหัสไดรฟ์ของคุณ
   
8. เมื่อการเข้ารหัสเสร็จสิ้น ให้เลือก [Close]⑬
   
9. คุณจะพบว่ามีไอคอน กุญแจ ที่ไดร์ฟของคุณ ซึ่งหมายความว่าไดรฟ์นี้ได้รับการเข้ารหัสจากการเข้ารหัสอุปกรณ์ (ภาพประกอบต่อไปนี้เป็น สถานะปลดล็อค)
   
   หากเป็นไอคอนล็อกสีทอง แสดงว่าไดรฟ์อยู่ภายใต้สถานะถูกล็อก และคุณต้องใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงข้อมูล
   หมายเหตุ: ขณะที่ไดรฟ์ของคุณอยู่ในสถานะปลดล็อก ไดรฟ์จะถูกล็อกโดยอัตโนมัติหลังจากที่คอมพิวเตอร์รีสตาร์ท
   

กลับสู่เมนู

ปิดการใช้งาน BitLocker

1. พิมพ์และค้นหา [Manage BitLocker] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Open]②.
   
2. คลิก [Turn off BitLocker]③ บนไดรฟ์ที่คุณต้องการถอดรหัส
   
   หากไดรฟ์อยู่ในสถานะล็อค ให้คลิก [Unlock drive] และพิมพ์รหัสผ่านเพื่อปิดการใช้งาน BitLocker
   
3. ยืนยันว่าคุณต้องการถอดรหัสไดรฟ์ของคุณ จากนั้นให้เลือก [Turn off BitLocker]④ เพื่อเริ่มปิด BitLocker และไดรฟ์ของคุณจะไม่ได้รับการปกป้องอีกต่อไป 
   

กลับสู่เมนู

Windows 10 operating system

เมนู:

• เพื่อดูว่าคุณสามารถใช้การเข้ารหัสอุปกรณ์ได้หรือไม่
• เปิดใช้งานการเข้ารหัสอุปกรณ์
• ปิดการเข้ารหัสอุปกรณ์
• การเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน
• ปิดการใช้งาน BitLocker encryption

เพื่อดูว่าคุณสามารถใช้การเข้ารหัสอุปกรณ์ได้หรือไม่

1. พิมพ์และค้นหา [System Information] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Ran as administrator]②.
   
2. ที่ด้านล่างของหน้าต่าง System Information ให้หา [Device Encryption Support]③ ถ้าค่าบอกว่า [Meets prerequisites]④ การเข้ารหัสอุปกรณ์พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ของคุณ หากไม่มี คุณสามารถใช้ การเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน แทนได้
   

กลับสู่เมนู

เปิดใช้งานการเข้ารหัสอุปกรณ์

1. พิมพ์และค้นหา [Device encryption settings] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Open]②.
   
2. ในบางรุ่นอาจเปิดฟีเจอร์การเข้ารหัสอุปกรณ์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้น หากคุณลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Microsoft การเข้ารหัสอุปกรณ์จะเสร็จสิ้นบนอุปกรณ์ของคุณ
   หากคุณยังไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ด้วย Microsoft โปรดเลือก [Sign in with a Microsoft account instead]③.
   
3. เข้าสู่การตั้งค่าข้อมูลของคุณ กรุณาคลิก [Sign in with a Microsoft account instead]④ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ แนะนำการใช้งาน Microsoft account.
   
4. หลังจากที่คุณลงชื่อเข้าใช้ด้วย Microsoft การเข้ารหัสอุปกรณ์จะเสร็จสิ้น
   
5. คุณจะพบว่ามีไอคอน กุญแจ ที่ไดร์ฟของคุณ ซึ่งหมายความว่าไดรฟ์นี้ได้รับการเข้ารหัสจากการเข้ารหัสอุปกรณ์ (ภาพประกอบต่อไปนี้เป็น สถานะปลดล็อค)
   

กลับสู่เมนู

ปิดการเข้ารหัสอุปกรณ์

1. พิมพ์และค้นหา [Device encryption settings] ที่ช่อง Windows search bar① จากนั้นให้คลิก [Open]②.
   
2. ในช่อง Device encryption ให้เลือก [Turn off]③.
   
3. ยืนยันว่าคุณต้องการปิดการเข้ารหัสอุปกรณ์ ให้เลือก [Turn off] เพื่อปิดการใช้งานฟังก์ชั่นการเข้ารหัสอุปกรณ์④
   

กลับสู่เมนู

การเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน

BitLocker เป็นฟังก์ชันในตัวของการเข้ารหัสอุปกรณ์ใน Windows เพื่อปกป้องข้อมูลของคุณ และข้อมูลในอุปกรณ์ของคุณสามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

หมายเหตุ: BitLocker ไม่มีใน Windows 10 Home edition

1. พิมพ์และค้นหา [Manage BitLocker] ในแถบค้นหาของ Windows①, และคลิก [Open]②.
   
2. คลิก [Turn on BitLocker]③ บนไดรฟ์ที่คุณต้องการตั้งค่าการเข้ารหัสอุปกรณ์ของ BitLocker (ต่อไปนี้ใช้ไดรฟ์ D เป็นตัวอย่าง)
   
3. คลิก [Use a password to unlock the drive] และพิมพ์รหัสผ่านที่คุณต้องการ④, และเลือก [Next]⑤.  หากคุณมีสมาร์ทการ์ดคุณยังสามารถเลือกตัวเลือกสมาร์ทการ์ดเพื่อปลดล็อกไดรฟ์ได้
   
4. เลือกวิธีสำรองคีย์การกู้คืนของคุณ⑥, และเลือก [Next]⑦.
   คีย์การกู้คืนเป็นรหัสผ่านตัวเลข 48 หลักที่ไม่ซ้ำกัน หากคุณลืมรหัสผ่านคุณสามารถใช้คีย์การกู้คืนเพื่อเข้าถึงไดรฟ์ของคุณ หรือ Windows จะต้องใช้คีย์การกู้คืน BitLocker เมื่อตรวจพบสภาวะที่ไม่ปลอดภัยซึ่งอาจเป็นความพยายามที่ไม่ได้รับอนุญาตในการเข้าถึงข้อมูล
   
5. เลือกพื้นที่ดิสก์ของไดรฟ์ที่คุณต้องการเข้ารหัส ⑧, จากนั้นเลือก [Next]⑨.
   
6. เลือกที่ encryption mode คุณต้องการใช้⑩, และคลิก [Next]⑪.
   
7. ยืนยันว่าการตั้งค่าการเข้ารหัสถูกต้องจากนั้นเลือก [Start encrypting]⑫ เพื่อเริ่มเข้ารหัสไดรฟ์ของคุณ
   
8. เมื่อการเข้ารหัสเสร็จสิ้นให้เลือก [Close]⑬.
   
9. คุณจะพบว่ามีการล็อกไอคอนไดรฟ์ซึ่งหมายความว่าไดรฟ์นี้ได้รับการเข้ารหัสจาก BitLocker (ภาพประกอบต่อไปนี้เป็นสถานะปลดล็อค.) 
   
   หากเป็นไอคอนล็อกสีทอง แสดงว่าไดรฟ์อยู่ภายใต้สถานะถูกล็อก และคุณต้องใช้รหัสผ่านเพื่อเข้าถึงข้อมูล
   **เคล็ดลับ: ขณะที่ไดรฟ์ของคุณอยู่ในสถานะปลดล็อก ไดรฟ์จะถูกล็อกโดยอัตโนมัติหลังจากที่คอมพิวเตอร์รีสตาร์ท **
   

กลับสู่เมนู

ปิด BitLocker

1. พิมพ์และค้นหา [Manage BitLocker]ในแถบค้นหาของ Windows ①, และคลิก [Open]②.
   
2. คลิก [ปิดการใช้งาน BitLocker]③ บนไดรฟ์ที่คุณต้องการถอดรหัส
   
   หากไดรฟ์อยู่ในสถานะล็อคคุณต้องคลิก [Unlock drive] และพิมพ์รหัสผ่านเพื่อปิด BitLocker
   
3. ยืนยันว่าคุณต้องการถอดรหัสไดรฟ์ของคุณหรือไม่จากนั้นเลือก [ปิดการใช้งาน BitLocker]④ เพื่อเริ่มปิด BitLocker และไดรฟ์ของคุณจะไม่ได้รับการปกป้องอีกต่อไป
   

กลับสู่เมนู