วิธีเปิดใช้งาน/ปิดใช้งานการบูตแบบปลอดภัย

ผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้: Notebook, Desktop, All-in-One PC, Gaming Handheld

 

วัตถุประสงค์หลักของ Secure Boot คือการป้องกันระบบปฏิบัติการที่ไม่ได้รับอนุญาตและซอฟต์แวร์อันตรายไม่ให้โหลดระหว่างการบูตอุปกรณ์ การเปิดใช้งาน Secure Boot ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเฉพาะซอฟต์แวร์และไดรเวอร์ที่ผ่านการรับรองด้วยลายเซ็นของ Microsoft เท่านั้นที่จะสามารถทำงานได้เมื่อเริ่มต้นระบบ จึงช่วยป้องกันการแทรกซึมของมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การเปิดใช้งาน Secure Boot ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความน่าเชื่อถือโดยรวมของระบบอีกด้วย

หากคุณจำเป็นต้องใช้งานระบบปฏิบัติการหรือเครื่องมือบางอย่างที่ไม่รองรับ Secure Boot คุณอาจต้องปิดใช้งานระบบดังกล่าวเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม โปรดตระหนักถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น หากไม่มีข้อกำหนดเฉพาะ ขอแนะนำให้เปิดใช้งาน Secure Boot ไว้เพื่อรับประกันความปลอดภัยและความเสถียรของระบบ

หากคุณพบสถานะการบูตแบบปลอดภัยเป็นไม่ได้ใช้งาน โปรดดูที่ วิธีแก้ปัญหา Secure Boot แสดงเป็น "Not Active"

 

หากคุณต้องการเปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน Secure Boot โปรดปฏิบัติตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในบทความนี้

หมายเหตุ: หากฮาร์ดไดรฟ์ของคุณถูกเข้ารหัสด้วย Device Encryption หรือ BitLocker การแก้ไขการตั้งค่า BIOS อาจต้องให้คุณป้อนรหัส BitLocker เพื่อปลดล็อกไดรฟ์ คุณสามารถดูบทความนี้เพื่อค้นหารหัส BitLocker: การแก้ไขปัญหา - หน้าจอการกู้คืน BitLocker ปรากฏขึ้นหลังจากการเริ่มต้นระบบ/ค้นหาคีย์การกู้คืน BitLocker. หากคุณต้องการปิดการใช้งานการเข้ารหัสอุปกรณ์หรือ BitLocker คุณสามารถอ่านบทความนี้ได้: บทนำเกี่ยวกับการเข้ารหัสอุปกรณ์และการเข้ารหัส BitLocker มาตรฐาน

 

สำหรับผู้ที่ใช้งาน Notebook, All-in-One PC, หรือ Gaming Handheld ต่อไปนี้เป็นวิธีการเปิด/ปิดการบูต Secure Boot
  1. ก่อนอื่น อุปกรณ์จะต้องเข้าสู่การตั้งค่า BIOS เมื่อปิดเครื่องอย่างสมบูรณ์, กดปุ่ม [F2] ค้างไว้ บนแป้นพิมพ์และกดปุ่มพร้อมกัน [Power button] ในการบูต เมื่อหน้าจอ BIOS ปรากฏขึ้น คุณสามารถปล่อยปุ่ม [F2] ได้ที่นี่ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีการเข้าสู่ยูทิลิตี้ BIOS   
    หมายถึง: สำหรับ gaming handhelds, กดปุ่ม [ลดระดับเสียง] ค้างไว้แล้วกดปุ่มเปิด/ปิด
  2. เมื่อเข้าสู่หน้าจอการตั้งค่า BIOS คุณจะพบกับอินเทอร์เฟซสองประเภท ได้แก่ อินเทอร์เฟซ UEFI และ MyASUS ใน UEFI โปรดดูขั้นตอนต่อไปนี้ตามหน้าจอ BIOS ของอุปกรณ์ของคุณ:
วิธีเปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน Secure Boot ในโหมด UEFI

ในอินเทอร์เฟซ UEFI คุณสามารถนำทางและยืนยันโดยใช้ ปุ่มลูกศรและปุ่ม Enter บนแป้นพิมพ์ ทัชแพด หรือเมาส์

หมายเหตุ: หน้าจอการกำหนดค่า BIOS ข้างล่างอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่น

  1. หลังจากเข้าสู่ยูทิลิตี้ BIOS แล้วให้กดปุ่ม [F7] key บนแป้นพิมพ์ของคุณหรือคุณสามารถคลิกที่ [Advanced Mode] ที่เป็นตัวเลือกบนหน้าจอ.     
  2. เข้าหน้า [Security], และเลือก [Secure Boot].     
  3. หลังจากเข้า Secure Boot, เลือก [Secure Boot Control], จากนั้นปรับการตั้งค่าที่คุณต้องการ.     
    หมายเหตุ: การตั้งค่าเป็น 「Enabled」 จะเปิดใช้งาน Secure Boot โดยตั้งค่าเป็น 「Disable」 จะปิดการใช้งาน Secure Boot 
    หมายเหตุ:  สถานะ Secure Boot (ใช้งานหรือไม่ใช้งาน) ที่แสดงบนหน้าจอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเอง แต่จะเปลี่ยนไปตามการตั้งค่าการควบคุมการบูตแบบปลอดภัยที่คุณกำหนดค่าไว้ หลังจากเปลี่ยนการตั้งค่าการควบคุมการบูตแบบปลอดภัยแล้ว คุณต้องบันทึกการกำหนดค่าและออกจากระบบเพื่อให้สถานะการบูตแบบปลอดภัยได้รับการอัปเดตตามนั้น 
  4. บันทึกการตั้งค่าและออก กดปุ่ม [F10] key บนคีย์บอร์ดของคุณ คลิก [Ok], และอุปกรณ์จะเริ่มทำการรีสตาร์ทและการตั้งค่าก็จะมีผล 
    คุณยังสามารถไปที่หน้า「Save & Exit」 และเลือก 「Save Changes and Exit」 เพื่อเป็นตัวเลือกในการบันทึกการตั้งค่าของคุณและออก 

 

วิธีเปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน Secure Boot ใน MyASUS ในโหมด UEFI

ในอินเทอร์เฟซ MyASUS ใน UEFI คุณสามารถนำทางและยืนยันโดยใช้ ปุ่มลูกศรและปุ่ม Enter บนแป้นพิมพ์ ทัชแพด หรือเมาส์

หมายเหตุ: หน้าจอการกำหนดค่า BIOS ข้างล่างอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่น

  1. หลังจากเข้าสู่ยูทิลิตี้ BIOS แล้วให้กดปุ่ม [F7] key บนแป้นพิมพ์ของคุณหรือคุณสามารถคลิกที่ [Advanced Settings] ที่เป็นตัวเลือกบนหน้าจอ.     
  2. เข้าหน้า [Security]และเลือก [Secure Boot].     
  3. Aหลังจากเข้าสู่ Secure Boot แล้ว ให้เลือก [Secure Boot Control],จากนั้นปรับการตั้งค่าที่คุณต้องการ.     
    หมายเหตุ: ตั้งค้าที่ 「Enabled」 จะเปิดใช้งาน Secure Boot โดยตั้งค่าเป็น 「Disable」จะปิดการใช้งาน Secure Boot 
    หมายเหตุ: สถานะการบูตแบบปลอดภัย (ใช้งานหรือไม่ใช้งาน) ที่แสดงบนหน้าจอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยตนเอง แต่จะเปลี่ยนไปตามการตั้งค่าการควบคุมการบูตแบบปลอดภัยที่คุณกำหนดค่าไว้ หลังจากเปลี่ยนการตั้งค่าการควบคุมการบูตแบบปลอดภัยแล้ว คุณต้องบันทึกการกำหนดค่าและออกจากระบบเพื่อให้สถานะการบูตแบบปลอดภัยได้รับการอัปเดตตามนั้น 
  4. บันทึกการตั้งค่าและออก กดปุ่ม [F10] key บนคีย์บอร์ดของคุณ คลิก [Confirm], และอุปกรณ์จะเริ่มทำการรีสตาร์ทและการตั้งค่าก็จะมีผล 
    คุณยังสามารถไปที่หน้า 「Save & Exit」 และเลือก 「Save Changes and Exit」 เพื่อเป็นตัวเลือกในการบันทึกการตั้งค่าของคุณและออก   

 

เปิดใช้งาน/ปิดใช้งาน Secure Boot บน Desktop Computer

ก่อนอื่น อุปกรณ์จะต้องเข้าสู่การตั้งค่า BIOS เมื่อปิดเครื่องอย่างสมบูรณ์, กดปุ่ม [F2] บนแป้นพิมพ์ค้างไว้ และกดปุ่มพร้อมกันกับ [Power button] ในการบูต เมื่อหน้าจอ BIOS ปรากฏขึ้น คุณสามารถปล่อยปุ่ม [F2] ได้ที่นี่ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ วิธีการเข้าสู่ยูทิลิตี้ BIOS เมื่อเข้าสู่หน้าจอการกำหนดค่า BIOS โปรดดูขั้นตอนต่อไปนี้:

หมายเหตุ: สำหรับเดสก์ท็อปรุ่นเก่าบางรุ่น คุณอาจต้องกดปุ่ม [Del] ค้างไว้ในระหว่างการเริ่มต้นระบบเพื่อเข้าถึงหน้าจอการกำหนดค่า BIOS

วิธีเปิดใช้งานหรือปิดใช้งาน Secure Boot ในโหมด UEFI

ในอินเทอร์เฟซ UEFI คุณสามารถนำทางและยืนยันโดยใช้ ปุ่มลูกศรและปุ่ม Enter บนแป้นพิมพ์หรือเมาส์

หมายเหตุ: หน้าจอการกำหนดค่า BIOS ข้างล่างอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับรุ่น

  1. หลังจากเข้าสู่ยูทิลิตี้ BIOS แล้วให้กดปุ่ม [F7] key บนแป้นพิมพ์ของคุณหรือคุณสามารถคลิกที่ [Advanced Mode] เพื่อเป็นตัวเลือกบนหน้าจอ.     
  2. เข้าหน้า [Boot]และเลือก [Secure Boot].     
  3. หลังจากเข้าสู่ Secure Boot แล้ว ให้เลือก [OS Type], จากนั้นปรับการตั้งค่าที่คุณต้องการ.     
    หมายเหตุ: ตั้งค้าที่ 「Enabled」 จะเปิดใช้งาน Secure Boot โดยตั้งค่าเป็น 「Disable」จะปิดการใช้งาน Secure Boot   
    หมายเหตุ: ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะ Secure Boot ที่แสดงบนหน้าจอได้ด้วยตนเอง แต่จะเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับว่ามี 「Secure Boot Key」 อยู่หรือไม่ หากมี Secure Boot Key อยู่ สถานะจะเป็น 「User」 หากไม่มี Secure Boot Key สถานะจะเป็น 「Setup」   
  4. บันทึกการตั้งค่าและออก กดปุ่ม [F10] key บนคีย์บอร์ดของคุณ คลิก [Confirm], และอุปกรณ์จะเริ่มทำการรีสตาร์ทและการตั้งค่าก็จะมีผล 
    คุณยังสามารถไปที่หน้า 「Save & Exit」 และเลือก 「Save Changes and Exit」 เพื่อเป็นตัวเลือกในการบันทึกการตั้งค่าของคุณและออก   

 

 

วิธีแก้ปัญหา Secure Boot แสดงเป็น "Not Active"

 

ขั้นแรก ให้เปิดใช้งาน Secure Boot Control จากนั้นคืนค่าคีย์ Secure Boot เป็นค่าเริ่มต้น โปรดปฏิบัติตามวิธีแก้ไขที่เหมาะสมตามอุปกรณ์ที่คุณใช้

เปิดใช้งาน Secure Boot Control และ Restoring Keys สำหรับ Notebook, All-in-One PC, หรือ Gaming Handheld

กรุณาดูขั้นตอนต่อไปนี้ตามหน้าจอ BIOS ของอุปกรณ์ของคุณ:

วิธีเปิดใช้งาน Secure Boot Control และ Restore Keys ใน โหมด UEFI
  1. ในหน้า Secure Boot ให้ตั้งค่า Secure Boot Control เป็น [Enabled], แล้วเลือก [Key Management].   
  2. เมื่ออยู่ใน Key Management ให้เลือก [Reset To Setup Mode].   
  3. เลือก [Yes]เพื่อยืนยันการลบฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot ทั้งหมด
  4. หลังจากลบฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot ทั้งหมดแล้ว ให้เลือก [Restore Factory Keys].   
  5. เลือก [Yes]เพื่อยืนยันการติดตั้งฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot เริ่มต้นจากโรงงาน 
  6. บันทึกการตั้งค่าและออก กดปุ่ม [F10] key บนคีย์บอร์ดของคุณ คลิก [Ok], และอุปกรณ์จะรีสตาร์ทและการตั้งค่าจะมีผล
    คุณยังสามารถไปที่ 「Save & Exit」 และเลือก 「Save Changes and Exit」 ตัวเลือกในการบันทึกการตั้งค่าของคุณและออก 

 

วิธีเปิดใช้งาน Secure Boot Control และ Restore Keys ใน MyASUS ในโหมด UEFI 
  1. ในหน้า Secure Boot ให้ตั้งค่า Secure Boot Control เป็น [Enabled], แล้วเลือก [Key Management].   
  2. เมื่ออยู่ใน Key Management ให้เลือก [Reset To Setup Mode].   
  3. เลือก [Yes]เพื่อยืนยันการลบฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot ทั้งหมด
  4. หลังจากลบฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot ทั้งหมดแล้ว ให้เลือก [Restore Factory Keys].   
  5. เลือก [Yes]เพื่อยืนยันการติดตั้งฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot เริ่มต้นจากโรงงาน
  6. บันทึกการตั้งค่าและออก กดปุ่ม [F10] key บนคีย์บอร์ดของคุณ คลิก [Ok], และอุปกรณ์จะรีสตาร์ทและการตั้งค่าจะมีผล
    คุณยังสามารถไปที่ 「Save & Exit」 และเลือก 「Save Changes and Exit」 ตัวเลือกในการบันทึกการตั้งค่าของคุณและออก 

 

เปิดใช้งาน Secure Boot Control และ Restoring Keys สำหรับ Desktop Computer

วิธีเปิดใช้งาน Secure Boot Control และ Restore Keys ในโหมด UEFI

  1. ในหน้า Secure Boot ให้ตั้งค่าโหมด Secure Boot เป็น [Custom], แล้วเลือก [Key Management].   
  2. เมื่ออยู่ใน Key Management ให้เลือก [Clear Secure Boot Keys].   
  3. เลือก [Yes]เพื่อยืนยันการลบฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot ทั้งหมด
  4. หลังจากลบฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot ทั้งหมดแล้ว ให้เลือก [Install Default Secure Boot Keys].   
  5. เลือก [Yes]เพื่อยืนยันการติดตั้งฐานข้อมูลคีย์ Secure Boot เริ่มต้นจากโรงงาน
  6. บันทึกการตั้งค่าและออก กดปุ่ม [F10] key บนคีย์บอร์ดของคุณ คลิก [Ok], และอุปกรณ์จะรีสตาร์ทและการตั้งค่าจะมีผล
    คุณยังสามารถไปที่ 「Save & Exit」 และเลือก 「Save Changes and Exit」 ตัวเลือกในการบันทึกการตั้งค่าของคุณและออก